การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว

การเคลื่อนไหวโดยอาศัยการไหลของไซโทพลาสซึม
         อะมีบาไม่มีโครงสร้างในการเคลื่อนที่โดยเฉพาะ  แต่จะเคลื่อนที่โดยการหลของไซโทพลาสซึมเป็นเท้าเทียม  (pseudopodium)  ไซโทพลาสซึมในอะมีบา  แบ่งเป็น  2  ส่วน  คือ  
1.  เอ็กโทพลาสซึม  เป็นไซโทพลาสซึมชั้นนอกที่มีลักษณะเป็นสารกึ่งแข็งกึ่งเหลว  เรียกว่า  เจล 
2. เอนโดพลาสซึม  เป็นไซโทพลาสซึมชั้นในมีลักษณะค่อนข้างเหลว  เรียกว่า  โซล  เนื่องจากการรวมตัวและแยกตัวของโปรตีนแอกทีน  ซึ่งเป็นส่วนประกอบของไมโครฟิลาเมนต์  (สายใยเล็กๆมีมากมายอยู่ในไซโทพลาสซึม)  ทำให้สมบัติของไซโทพลาสซึมเปลี่ยนจากเจลเป็นโซลและจากโซลเป็นเจล จึงเกิดการไหลของไซโทพลาสซึมไปในทิศทางที่เซลล์เคลื่อนที่ไป  และดันเยื่อหุ้มเซลล์ส่วนนั้นให้โป่งออกเป็นเท้าเทียม  ทำให้อะมีบาเคลื่อนที่ได้  เรียกการเคลื่อนที่นี้ว่า  การเคลื่อนที่แบบอะมีบา  (amoeboid  movement) 

การเคลื่อนไหวโดยใช้แฟลลเจลลัมหรือซีเลีย 
            แฟลลเจลลัม  มีลักษณะเป็นเส้นยาวและมีจำนวนเพียง  1  หรือ  2  เส้นเท่านั้น  แต่บางชนิดอาจจะมีจำนวนมากได้  ส่วนซีเลียมีลักษณะเป็นขนเล็กๆสั้นๆและมักมีจำนวนมาก  แฟลเจลลัมจะยาวกว่าซีเลียถึง  20  เท่า  ในสัตว์ชั้นสูงก็มีซีเลีย  แต่มักจะเป็นเซลล์ที่เยื่อบุของระบบหายใจ  ท่อนำไข่  ฯลฯ  โดยช่วยโบกพัดให้สารบางอย่างเคลื่อนที่ไปได้
พารามีเซียมเคลื่อนที่โดยการโบกพัดของซีเลียไปทางด้านหลัง  ทำให้ตัวของพารามีเซียมเคลื่อนที่ไปข้างหน้า  จากการโบกพักของซีเลียทำให้ตัวของพารามีเซียมหมุนไปด้วย  เนื่องจากไม่มีอวัยวะคอยปรับสมดุล  และเนื่องจากซีเลียที่ร่องปากซึ่งมีจำนวนมากกว่าโบกพัดแรงกว่าบริเวณอื่นจึงทำให้หมุน  แบคทีเรีย  ยูกลีนา  พารามีเซียม  ไม่มีกล้ามเนื้อแต่อาศัยโครงสร้างที่เรียกว่า  ซีเลีย  (cilia)  หรือ  แฟลเจลลัม  (flagellum)  ช่วยในการเคลื่อนที่
จากการศึกษาภาคตัดตามขวางของแฟลเจลลัมและซีเลียภายใต้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน จะพบว่าส่วนประกอบที่สำคัญ  คือ
1.ไมโครทิวบูล  เป็นหลอดเส้นเล็กๆซึ่งประกอบด้วยโปรตีน  เรียกว่า  ทิวบูลิน  ไมโครทิวบูล  เรียงตัวเป็นวง  9  กลุ่มๆละ  2  หลอด  ตรงแกนกลางมี  2  หลอด  ไมโครทิวบูลถูกล้องรอบด้วยเยื่อหุ้มเซลล์  ระหว่างไมโครทิวบูลที่เรียงเป็นวงจะมีโปรตีนที่เรียกว่า  ไดนีน  เป็นเสมือนแขนที่เกาะกับไมโครทิวบูล  เรียกว่า  ไดนีนอาร์ม  ทำให้แฟลเจลลัมหรือซีเลียโค้งงอและสามารถพัดโบกได้  (มีโครงสร้างเป็นแบบ  9+2)
2.เบซอลบอดี   หรือไคนีโทโซม เป็นส่วนที่อยู่ลึกลงไปในเยื่อหุ้มเซลล์ ซึ่งเป็นฐาน แฟลเจลลัมหรือซีเลีย  (มีโครงสร้างเป็นแบบ  9+0)  จากการทดลองพบว่าถ้าตัดเอาเบซอลบอดีออกจะมีผลทำให้แฟลเจลลัมหรือซีเลียนั้นไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น